ในขณะที่ผู้ประกอบการต่างชาติเลือกลงทุนโครงการคอนโดมิเนียม ก็ยังมีผู้ประกอบการบางรายที่เลือกลงทุนในโครงการที่สร้างรายได้ในระยะยาว เช่น โรงแรม อาคารสำนักงาน หรือโครงการรูปแบบอื่นๆ โดยการซื้อที่ดิน ซื้อโครงการ หรือเริ่มพัฒนาในรูปแบบนี้ในปีพ.ศ.2562 เช่น
1. ทีเอ โกลบอล เบอราดจากประเทศมาเลเซียที่ซื้อโรงแรมโฟร์พ้อยท์ บาย เชอราตัน ไปในราคา 2,250 ล้านบาทจากกลุ่มเดสติเนชั่น รีสอร์ท2. ลัคกี้ ลิฟวิ่งจากประเทศสิงคโปร์ มีแผนจะพัฒนาโครงการโรงแรม Canopy by Hilton ในซอยสุขุมวิท 12
3. เอฟเจ กรุ๊ปจากประเทศญี่ปุ่นจะพัฒนาโครงการโรงแรมในชื่อ Hotel Forza สุขุมวิท กรุงเทพในซอยสุขุมวิท 29
4. เจแอลเค โฮลดิ้งจากประเทศไต้หวันซื้อที่ดินขนาด 3 ไร่กว่าติดสถานีรถไฟฟ้านานาในราคาตารางวาละ 2.496 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์-ยูส
5. เมอร์คิวเรียส แคปปิตอล อินเวสท์เม้นท์ จากประเทศสิงคโปร์ซื้อหุ้น 50% กว่า 335,000,000 บาทจากบริษัท แกรนด์เบย์ โฮเต็ล จำกัดซึ่งเป็นบริษัทลูกของ เอเพ็กซ์ ดีเวลล็อปเม้นท์ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการเชอราตัน ภูเก็ต แกรนด์ เบย์ รีอสร์ท
6. แชงกรี-ลา โฮเต็ล ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่จากฮ่องกงซื้อที่ดินขนาด 657.5 ตารางวาในซอยทองหล่อในราคารวม 1,885.50 ล้านบาทหรือประมาณ 2.87 ล้านบาทต่อตารางวาเพื่อพัฒนาโครงการโรงแรม
การลงทุนโครงการรูปแบบนี้หรือการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการต่างชาติมีมาอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงความมั่นใจและความเชื่อมั่นประเทศไทยในระยะยาว
แหล่งที่มา Facebook Page PropertyDNA วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562