แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีพ.ศ.2562 จะอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากผลกระทบจากนโยบายจากภาครัฐบาล ธนาคารแห่งประเทศไทย ภาวะเศรษฐกิจโลก และภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศไทยเอง
ผู้ประกอบการหลายรายเลือกที่จะเปิดขายโครงการใหม่ลดลงเพื่อเร่งขายโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์หรือมีกำหนดสร้างเสร็จในเร็ววันนี้แทน หรือถ้าเปิดขายโครงการใหม่ก็จะเป็นโครงการที่มั่นใจแล้วว่าสามารถปิดการขายหรือทำยอดจองได้สูงๆ ในช่วงที่เปิดขาย เพราะผู้ประกอบการไม่อยากให้โครงการที่เปิดขายใหม่ของตนเองเหลือขายเป็นระยะเวลานาน เพราะบางโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จในการขายช่วงแรกๆ จะไม่สามารถดันยอดขายขึ้นไปได้ช่วงที่โครงการก่อสร้างใกล้เสร็จ
แต่ในขณะที่ผู้ประกอบการไทยหลายรายเลือกที่จะชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ออกไปนั้นมีผู้ประกอบการต่างชาติบางรายเปิดขายโครงการใหม่ในช่วงนี้ ผู้ประกอบการต่างชาติที่เข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยก่อนหน้านี้ 1 – 2 ปีหรือนานกว่านั้นที่มีการเปิดขายโครงการใหม่ในปีพ.ศ.2562 เช่น
1. ไรส์แลนด์ที่มีบริษัทแม่อยู่ในประเทศจีนเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่บนถนนเพชรเกษมมูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนเพิ่งเปิดขายโครงการคลาวด์ ทองหล่อ – เพชรบุรีมูลค่าโครงการ 3,600 ล้านบาทและมีอีก 1 – 2 โครงการที่อาจจะเปิดขายในปีนี้
2. ลิสต์ กรุ๊ปจากประเทศญี่ปุ่นมีการร่วมมือกับทางฮาบิแททกรุ๊ปเปิดขาย 2 โครงการคอนโดมิเนียมบนถนนทองหล่อมูลค่าโครงการรวม 2,800 ล้านบาท
3. พีทีเอฟ เรียลตี้ (2018) ในเครือ พีทีเอฟ เรียลตี้ จากประเทศไต้หวันเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท จากที่เคยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมาแล้ว 4 โครงการ
4. ไฮไชน์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์จากประเทศจีนอีกรายที่เปิดตัวโครงการใหม่พร้อมกัน 4 โครงการมูลค่ารวมกว่า 22,500 ล้านบาท และเริ่มการก่อสร้างไปแล้วด้วย
5. กรีนฟิลด์ แอดไวซอรี่จากประเทศสิงคโปร์ร่วมมือกับบริษัท เจฟัลครัม เวนอร์ส จำกัดก่อตั้งบริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์สฯ ในประเทศไทยเพื่อลงทุนพัฒนาโครงการโรงแรม และที่อยู่อาศัยในประเทศไทยโดยเริ่มที่โรงการบ้านจัดสรรมูลค่า 1,250 ล้านบาท
แหล่งที่มา Facebook Page PropertyDNA วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562