จับตา!! อนาคตโครงการอสังหาฯ แนวถนนบางนา-ตราด


03/01/2020

พื้นที่ตามแนวถนนบางนา-ตราดเป็นอีก 1 พื้นที่ที่มีโครงการมิกซ์-ยูส ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงานเกิดขึ้นเพราะความเป็นเมืองขนาดย่อมๆ ที่มีชุมชนที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่อยู่ในพื้นที่ รวมไปถึงไม่ไกลจากเขตนิคมอุตสาหกรรมทั้งในจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี

ดังนั้น จึงมีอาคารสำนักงานเกิดขึ้นหลายอาคาร แต่ส่วนใหญ่เป็นอาคารที่เปิดให้บริการมานานกว่า 15 ปีขึ้นไป มีอาคารใหม่ๆ ไม่มากนัก พื้นที่รวมของอาคารสำนักงานในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 333,000 ตารางเมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ทั้งจากการพัฒนาเพิ่มเติมของเมกา บางนา ที่ตอนเปิดให้บริการช่วงแรกมีแต่ศูนย์การค้าเท่านั้น แต่จากแผนที่ทางกลุ่มสยามฟิวเจอร์เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้นั้น มีอาคารสำนักงาน โรงแรม ศูนย์ประชุมเพิ่มเติมเข้าไปในโครงการด้วย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเมกา บางนานี้ มีส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มเซ็นทรัลปรับปรุงพื้นที่ภายในเซ็นทรัล บางนา ด้วยงบประมาณกว่า 4,500 ล้านบาทซึ่งแล้วเสร็จไปตั้งแต่ปีพ.ศ.2560

โครงการแบงค็อกมอลล์ เป็นอีก 1 โครงการมิกซ์-ยูสที่น่าสนใจในพื้นที่ของกลุ่มเดอะมอลล์ โดยไม่เพียงแต่มีศูนย์การค้าขนาดพื้นที่รวมกว่า 80,000 ตารางเมตรเท่านั้นยังมีพื้นที่ของสวนน้ำและสวนสนุกที่มีพื้นที่รวมกันกว่า 50,000 ตารางเมตร โรงภาพยนตร์ 15 โรง ฮอลล์แสดงคอนเสิร์ตและกิจกรรมบันเทิงที่มีความจุกว่า 16,000 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถที่สามารถรองรับรถยนต์ได้สูงสุดถึง 8,000 คัน พื้นที่ที่ติดกันกับแบงค็อกมอลล์ยังมีโครงการมิกซ์-ยูสอีก 1 โครงการที่รอการพัฒนาอยู่ของกลุ่มซิตี้ เรียลตี้ ซึ่งโครงการนี้ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 664 ยูนิต อาคารสำนักงาน โรงแรม แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลออกมามากนัก

นอกจากนี้พื้นที่ด้านหน้าของแบงค็อกมอลล์ยังเป็นสถานีขนส่งผุ้โดยสารสายตะวันออก เรียกได้ว่าพื้นที่ช่วงต้นของถนนบางนา-ตราดในอนาคตจะเป็น 1 ในพื้นที่พาณิชยกรรมขนาดใหญ่ของกรุงเทพมหานครอีก 1 แห่ง

โครงการขนาดใหญ่อีก 1 โครงการคือ ฟอเรสเทียส์ ของกลุ่ม MQDC ที่ใช้งบประมาณในการพัฒนามากถึง 1.25 แสนล้านบาทบนที่ดินกว่า 398 ไร่ภายในประกอบไปด้วย บ้าน คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ และพื้นที่ค้าปลีกรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นอีก 1 โครงการที่จะเพิ่มเติมให้พื้นที่ตามแนวถนนบางนา-ตราดมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก แม้ว่าก่อนหน้านี้พื้นที่นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงและมีโครงการรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นมาต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โดยเฉพาะโครงการพื้นที่ค้าปลีกที่เป็นศูนย์กลางการขายเฟอร์นิเจอร์ วัสดุแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และวัสดุก่อสร้างจำนวนมากเปิดให้บริการจำนวนมาก พื้นที่รวมกันกว่า 100,000 ตารางเมตร

พื้นที่ตามแนวถนนบางนา-ตราดยังเป็นอีก 1 พื้นที่ที่มีสนามกอล์ฟอยู่หลายแห่ง เพราะเป็น 1 ในพื้นที่ที่ชาวต่างชาติที่ทำงานนิคมอุตสาหกรรมในกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี สามารถเดินทางมาเล่นกอล์ฟได้ค่อนข้างสะดวก ซึ่งหลายโครงการมีการจัดสรรที่ดินบางส่วนเพื่อพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยแต่ปัจจุบันที่อยู่อาศัยในสนามกอล์ฟไม่ใช่ทางเลือกที่น่าสนใจของผู้ที่มีฐานะไปแล้ว หลายโครงการที่อยู่อาศัยในสนามกอล์ฟกลายเป็นที่ดินรกร้างว่าเปล่าขาดการดูแล หลายโครงการไม่มีการพัฒนาเป็นบ้านจัดสรรไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เพราะบ้านจัดสรรในโครงการบ้านจัดสรรด้านนอกสนามกอล์ฟมีราคาย่อมเยากว่า

บ้านเดี่ยวในสนามกอล์ฟอยู่ที่ราคาประมาณ 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไปถึงมากกว่า 30 ล้านบาทต่อยูนิต บางโครงการที่อยู่อาศัยในสนามกอล์ฟมีการขายเปลี่ยนมือให้กับผู้ประกอบการต่างชาติ เช่น จีน เพื่อนำไปพัฒนาต่อสำหรับขายให้กับทั้งคนไทยและคนจีนที่นิยมกีฬากอล์ฟ ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่าในอนาคตพื้นที่ตามแนวถนนบางนา-ตราดจะกลับมาเป็น 1 ในพื้นที่ที่มีโครงการบ้านจัดสรรราคาแพงเปิดขายมากขึ้นกว่าปัจจุบันหรือเปล่า หลังจากที่พื้นที่ตามแนวถนนราชพฤกษ์ เกษตร-นวมินทร์ รามอินทรากลายเป็นพื้นที่ยอดนิยมไปแล้ว

บ้านจัดสรรในระดับราคามากกว่า 5 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป

บ้านจัดสรรในพื้นที่ตั้งแต่สี่แยกบางนาถึงสนามบินสุวรรณภูมินั้นมีมากกว่า 13,450 ยูนิต แต่ถ้าพิจารณาเฉพาะในส่วนของบ้านที่มีราคาขายมากกว่า 5 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไปแล้วจะพบว่ามีจำนวนประมาณ 4,170 ยูนิต โดยประมาณ 83% ของจำนวนนี้เป็นบ้านเดี่ยวที่เหลือมีทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝดรวมไปถึงโฮมออฟฟิศหรืออาคารพาณิชย์

อัตราการขายเฉลี่ยของบ้านจัดสรรในกลุ่มนี้ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 56% แต่ที่น่าสนใจคือ อัตราการขายของบ้านเดี่ยวในระดับราคาขายมากกว่า 5 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 56% แต่ถ้าพิจารณาในระดับราคาขายมากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไปพบว่ามีอัตราการขายเฉลี่ยที่ประมาณ 55%

ซึ่งถือว่าไม่ได้น้อยเกินไปสำหรับที่อยู่อาศัยที่มีรูปแบบโครงการเป็นบ้านเดี่ยวและมีราคาขายมากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป บ้านเดี่ยวที่มีราคาขายสูงที่สุดอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาทต่อยูนิตอาจจะมีมากกว่านี้แต่ก็ยังไม่มากเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ในอดีตพื้นที่ตามแนวถนนบางนา-ตราด เป็นอีก 1 พื้นที่ที่มีมีโครงบ้านราคาแพงๆ อยู่ อาจจะถึงหลัก 100 ล้าน รวมไปถึงที่ดินจัดสรรแบ่งขายที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มของเศรษฐีในอดีต แต่พอเวลาผ่านไปพื้นที่ที่มีบ้านราคาแพงของกรุงเทพมหานครก็เปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้ ราชพฤกษ์ เกษตร-นวมินทร์ พรราม 9 พัฒนาการ กลายเป็นพื้นที่มีบ้านจัดสรรราคาแพงเกิดขึ้นมากมายต่อเนื่องทดแทนพื้นที่ตามแนวถนนบางนา-ตราด แต่ในอนาคตเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงการต่างๆ ตามที่กล่าวไปแล้วนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีโครงการบ้านจัดสรรราคาหลักร้อยล้านบาทเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่ได้มีหลายโครงการแบบในพื้นที่อื่นๆ เท่านั้น

แหล่งที่มา Facebook Page PropertyDNA วันที่ 27-29 ธันวาคม 2562


แชร์บทความ
Tags

ตลาดคอนโดตลาดคอนโดมิเนียมตลาดที่อยู่อาศัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ตลาดอาคารสำนักงานถนนบางนา-ตราดบางนา-ตราดพื้นที่ค้าปลีกโครงการมิกซ์ยูส


add line phoenix