
ทำเลห้าแยกลาดพร้าว สุดสตรอง บิ๊กเนมประชันเดือดขนคอนโดฯขาย-เช่า ฝ่าดงโควิด มั่นใจมีแม่เหล็กดึงดูดลูกค้ากระเป๋าหนัก รถไฟฟ้าบีทีเอส – สถานีกลางบางซื่อ-ปอดใหญ่จตุจักร
การหดตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2563 สะท้อนแนวโน้มไปต่อยากทวีคูณ นับตั้งแต่เผชิญกับปัจจัยเสี่ยงไม่เคยคาดการณ์มาก่อน เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ส่งผลชัดเจนต่อการซื้อขายที่ลดลง จนแต่ละค่ายต้องงัดมาตรการเข้าช่วย ทั้งแบกทั้งอุ้มลูกค้ารายใหม่ เพื่อให้เกิดยอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะแผนการเปิดโครงการใหม่ ไตรมาส 2 ทยอยถูกพับเก็บไปก่อน พร้อมตั้งทีมเฝ้าสังเกตสถานการณ์ตลาด หาทางหนีทีไล่ จับช่องโอกาสที่เหลืออยู่ เพราะธุรกิจยังต้องเดินต่อ อย่างไรก็ตามสภาวะตลาดฝ่อ ยอดขายไม่คึกคัก อาจเป็นเพียงภาวะซํ้าเติมของทำเลเก่าๆ ที่มีซัพพลายคงค้างรอขายจำนวนมาก ราคาไม่ตอบโจทย์กับกำลังซื้อที่มี เพราะท่ามกลางสภาวะแบบนี้ เรียลดีมานด์ที่ต้องการซื้ออยู่จริงหรือลงทุนระยะยาว กำลังรอจังหวะ ยิ่งโครงการที่อยู่ในทำเลโดดเด่น มีอนาคต รายล้อมด้วยระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ อย่างจุดยุทธศาสตร์ “ห้าแยกลาดพร้าว” ที่กำลังจะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ พื้นที่มีการเติบโตในทุกแง่ สะท้อนภาพการพัฒนาไม่หยุด พบวันนี้กลายเป็นทำเลแม่เหล็กสำคัญ ดึงดูดการพัฒนาของผู้ประกอบการในยุคที่ตลาดขยับตัวยาก ได้อย่างดี ดีมานด์ตอบรับทั้งลูกค้าใหม่ และรีเซล
ภาพการเข้ามาพัฒนาลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมในโซน ห้าแยกลาดพร้าว โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ติดรถไฟฟ้า คึกคักตั้งแต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลวันนี้มีโครงการต่างๆ ทยอยแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัย และหากจะกล่าวถึงการแข่งขัน ช่วงชิงเพื่อเป็นเจ้าตลาดทำเล คงต้องวัดกันที่จำนวนโครงการ และมูลค่ารวมที่เกิดขึ้น โดยบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เพิ่งฉายภาพการเติบโตของบริษัทในทำเลดังกล่าว หลังอยู่ระหว่างส่งมอบโอนกรรมสิทธิ์ โครงการ “ไลฟ์ ลาดพร้าว” โปรเจ็กต์ร่วมทุนกับญี่ปุ่น มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ มูลค่า 8 พันล้านบาท รวม 1,615 หน่วย ให้กับลูกค้าในเฟสแรก และยังอยู่ระหว่างพัฒนาอีก 1 โครงการ “ไลฟ์ ลาดพร้าว วัลเลย์” ทำเลเดียวกัน ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ห้าแยกลาดพร้าว รวม 2 โครงการ มูลค่า1.44 หมื่นล้านบาท โดยมียอดขายดีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันประกาศว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2563 เตรียมต่อยอดอีก 1 โครงการใหม่ทำเลขยับออกไป “จตุจักร” ผ่านการจับลูกค้าที่แตกต่างกันตามเซ็กเมนต์ราคา ที่เอื้อทั้งลูกค้าเรียลดีมานด์ และกลุ่มนักลงทุน พร้อมระบุว่าจากการศึกษาตลาดพบราคาที่ไปได้ดีในย่านลาดพร้าว ซึ่งมีดีมานด์ตอบรับไม่ขาดสาย จะอยู่ในระดับ 1.3-1.4 แสนบาทต่อตารางเมตร สะท้อนจากลูกค้าที่ทยอยเข้ามาตรวจรับโอนห้องถึง 95% ในโครงการไลฟ์ ลาดพร้าว ที่แล้วเสร็จ
