“อธิบดีกรมราง” ลงพื้นที่ตรวจโมโนเรลสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เผยคืบหน้า 51 % คาดเปิดบริการเดือนตุลาคมปี 2564 พร้อมเน้นย้ำความปลอดภัยและปัญหาฝุ่นพิษ
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง และมาตรการป้องกันการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และมาตรการความปลอดภัย ในพื้นก่อสร้างรถไฟฟ้า โดยมีนายกิตติ เอกวัลลภ รักษาการ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานก่อสร้าง 2 (รก.ผอ.ฝบก.) และผู้บริหารให้การต้อนรับ
โดย อธิบดีกรมการขนส่งทางรางได้เน้นย้ำผู้รับผิดชอบงานก่อสร้างให้ดูแลการปฏิบัติการในเรื่องมาตรการป้องกันการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) และนโยบายการลดการจราจรติดขัด ได้แก่
1) ขอให้พิจารณาการติดตั้งสเปย์ฉีดน้ำแรงดันสูงใต้ทางวิ่ง การทำความสะอาดล้อรถที่วิ่งออกจากพื้นที่ก่อสร้าง และติดตั้งผ้าใบคลุมบริเวณที่มีฝุ่น รวมถึงการ ใช้ละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นในชั่วโมงเร่งด่วนใต้อาคารสถานีรถไฟฟ้าตลอดแนวถนนลาดพร้าว ศรีนครินทร์ และเทพารักษ์
2) ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างโดยให้ระวังการก่อสร้างที่ด้านล่างคงเป็นผิวจราจรอย่างเข้มงวด
3) พิจารณาจัดทำแผนในเรื่องการคืนพื้นที่ผิวการจราจร เพื่อลดปัญหาจราจร บริเวณถนนลาดพร้าว ศรีนคริน เทพารักษ์ในช่วงที่โครงการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ
4) การบูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(สถานีสำโรง) ของ รฟม. กับ กับสายเขียว (สถานีสำโรง) ของ BTS และทางเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สถานีพัฒนาการ) กับ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิ๊งค์ (สถานีหัวหมาก) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินให้เป็นสถานีร่วม
ทั้งนี้ ผลการคืบหน้าในการก่อสร้างเป็นที่น่าพอใจ ภายใต้การดูแลของ รฟม. อย่างใกล้ชิด ผลงานการก่อสร้างมีความคืบหน้าถึง 51 % โดย รฟม. คาดหมายว่า จะเปิดให้บริการทันกำหนดในเดือนตุลาคมปี 2564 รวมระยะเวลา 39 เดือน
อย่างไรก็ดีกรมการขนส่งทางรางขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ดูแลเอาใจใส่การก่อสร้างโดยมีผลงานความก้าวหน้าเป็นไปตามแผนและไม่ได้รับการร้องเรียนใดๆ จากประชาชนในปัญหาความเดือดร้อนผลกระทบจึงแสดงถึงความใส่ใจอันดีของผู้รับผิดขอบโครงการทุกฝ่ายตั้งแต่ผู้รับเหมา เจ้าของโครงการ วิศวกรควบคุมบริหารงาน และ รฟม.
แหล่งที่มา เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563