พริ้นซิเพิล แคปิตอล รุกธุรกิจสุขภาพ ลงทุน 5 พันล้านใน 3 ปี เปิดอีก 12 โรงพยาบาลบุกเมืองรอง ชูกลยุทธ์เฮลท์แคร์ อีโคซิสเต็ม ใช้เทคโนโลยีเชื่อมข้อมูลเอไอ-บิ๊กดาต้า ตอบโจทย์การบริการกลุ่มลูกค้าระดับกลาง
นายสาธิต วิทยากร ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจเพื่อสุขภาพ ภายใต้บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาล(รพ.)ในเครือ 8แห่ง ใน 7 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ นครสวรรค์ อุทัยธานี พิษณุโลก พิจิตร อุตรดิตถ์ ลำพูน และกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 1 แห่งที่จ.ศรีสะเกษ โดยจะเปิดให้บริการในปี 2564 เปิดเผยถึงแผนธุรกิจว่า มีแผนจะเปิดบริการรักษาพยาบาลในเมืองรองที่กำลังมีเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในนั้นคือรพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเปลี่ยนชื่อจากรพ.ปิยะมินทร์ หลังจากพริ้นซิเพิลฯ เข้าไปซื้อกิจการ จากไทย เฮ้ลท์ เมนเท็นเน้นซ์ เจ้าของเดิม มูลค่า 900 ล้านบาท ในปี 2561 ใช้เวลาปรับปรุง 1 ปี จนกระทั่งเปิดให้บริการในปี 2562 ขนาดบริการ 200 เตียง รองรับผู้ป่วยในโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑลฝั่งตะวันออก
ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายการลงทุนและการขยายกิจการใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2563-2565) ต้องการขยายเครือข่ายโรงพยาบาลในกลุ่มจังหวัดเมืองรองอีก 12 แห่ง โดยการลงทุนหลากหลาย ทั้งการเข้าไปร่วมลงทุน ซื้อกิจการ รวมไปถึงลงทุนสร้างเอง เริ่มต้นขนาด 50 เตียง ใช้เงินลงทุนแห่งละ 400 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ให้โรงพยาบาลขนาดใหญ่1แห่งในแต่ละพื้นที่ เป็นศูนย์กลาง และมีการเชื่อมโยงการบริการโรงพยาบาลในเครือบริเวณใกล้เคียง เช่น โรงพยาบาลพิษณุโลก เป็นศูนย์กลางการบริการภาคเหนือ อาทิ จ.พิจิตร อุตรดิตถ์ และลำพูน เป็นต้น โดยเชื่อมโยงข้อมูลการรักษา และมีการส่งต่อความเชี่ยวชาญการรักษาที่แตกต่างไปยังศูนย์กลางในภูมิภาค
สำหรับกลยุทธ์การรุกธุรกิจในยุคนี้จะต้องพัฒนาโมเดลเข้าสู่โรงพยาบาลดิจิทัล โดยพัฒนาศูนย์กลางด้านการรักษาพยาบาล และการจัดการข้อมูล “Healthcare Ecosystem หรือระบบการเกื้อหนุนกันทางด้านสาธารณสุข ให้กับโรงพยาบาลในเครือข่ายทั้งโรงพยาบาลในเครือและพันธมิตร โดยกลุ่มธุรกิจได้จับมือร่วมกันกับทั้งจากภาครัฐ เอกชน และ องค์กรต่างๆ ในการพัฒนาระบบดังกล่าว ที่มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศด้านสาธารณสุขมาใช้ อาทิ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ด้านเฮลท์แคร์ ด้านการแพทย์และการดูแลรักษาสุขภาพ หรือระบบแพทย์ทางไกล (Telemedicine) รวมถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาล (Big Data) ระบบการบริหารจัดการข้อมูลในโรงพยาบล (Hospital Information System) รวมถึงการจัดการเวชระเบียนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Medical Record :EMR) ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงข้อมูลการรักษาของประชาชาชนในชุดเดียวกัน นำไปสู่การพัฒนาระบบการสาธารณสุขของไทย
แหล่งที่มา เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 6 ธันวาคม 2562
